ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ ร้องไม่หยุด ร้องนานจนคุณพ่อคุณแม่รู้สึกกังวล (รำคาญ) จนกลายเป็นความเครียด ถึงแม้ว่าจะพยายามหาต้นตอแต่ก็ยังไม่เจอ ไข้ก็ไม่เป็น ท้องก็ไม่เสีย อาการผดผื่นก็ไม่มี บางทีอาจจะมาจากอาการโคลิคก็เป็นได้
อาการโคลิค คือการที่ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุโดยที่ควบคุมไม่ได้ ถึงแม้จะมีสุขภาพดีไม่ได้เจ็บป่วย และทานนมหรืออาหารอย่างเพียงพอแล้วก็ตาม โดยส่วนใหญ่มักจะพบได้มากในช่วง 6 สัปดาห์หลังคลอด และมีเด็กประมาณ 1 ใน 5 ที่จะมีอาการแบบนี้ แต่หากเข้าสู่ช่วงอายุ 3-4 เดือนก็จะค่อย ๆ หายไปเอง อาการโคลิดไม่ได้ส่งผลเสียหรือสร้างอันตรายใด ๆ ต่อสุขภาพเด็กไม่ว่าจะทั้งระยะสั้น และระยะยาว เพียงแค่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องเลี้ยงยากขึ้นเท่านั้นเอง
สัญญาณแบบไหนที่บ่งบอกว่าลูกเป็นโคลิค
- ทารกที่มีอายุไม่เดิน 5 เดือน
- ร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล ทั้ง ๆ ที่สุขภาพแข็งแรง ไม่ใช่เวลาดื่มนม หรือเปลี่ยนผ้าอ้อม
- จะร้องเวลาเดิมทุกวัน โดยเฉพาะตอนเย็น
- ร้องด้วยเสียงแหลม เหมือนกรี๊ด ดังกว่าปกติ
- ร้องต่อเนื่องทำยังไงก็ไม่หยุด อยู่ไม่นิ่งคล้ายหงุดหงิด
สาเหตุของอาการโคลิด
สาเหตุที่เกิดอาการโคลิดยังไม่มีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าเกิดจากอะไร โดยมีการสันนิษฐานดังนี้
- อาจจะเกิดจากนิสัยที่อ่อนไหว หรือเรียกร้องความสนใจ
- ระบบประสาทที่ยังไม่พัฒนาอย่างเต็มที่
- น้ำนมของแม่ (เกิดจากอาหารที่แม่ทาน)
- เด็กกินนมมากไป
- เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร
- ไม่ได้เรอหลังมื้ออาหาร
- อาการกรดไหลย้อน
ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุจากอาการโคลิดควรทำอย่างไร
อาการนี้อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าสามารถหายได้เอง แต่หากรู้สึกไม่สบายควรปรึกษากุมารแพทย์เพื่อดูว่าจริง ๆ แล้วร้องไห้เพราะสาเหตุอื่นหรือไม่ เช่นทางเดินอาหาร หรือทางเดินปัสสาวะ เพื่อที่จะได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี
วิธีรับมือ
ในช่วงที่ลูกงอแงร้องไม่หยุดจนยากจะรับมือให้ช่วยกันอุ้ม หากไม่ไหวจริง ๆ จนรู้สึกเคลียดให้วางลูกเอาไว้ในที่ปลอดภัย แล้วออกไปข้างนอกสักพักทำใจเย็น ๆ
เตรียมอาหารไว้เผื่อฉุกละหุกตอนที่ลูกมีอาการ เมื่อลูกหลับให้ใช้ช่วงเวลานั้นเป็นเวลานอนของเราด้วย เพื่อเก็บแรงเอาไว้รับมือ
สุดท้ายถึงแม้ว่าจะเป็นห่วง หรือหงุดหงิดใจที่เป็นเรื่องปกติของอารมณ์ ก็ควรใจเย็น ๆ สิ่งที่ควรนึกไว้เสมอเมื่อลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุจากอาการโคลิดก็คือบอกกับตัวเองว่ามันแค่อาการหนึ่งที่เกิดขึ้นได้กับเด็กทุกคน เมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง ตอนนี้แค่ทำหน้าที่ของพ่อของแม่ในการดูแลลูกน้อยให้ดีที่สุด