งูสวัด โรคที่หายเองได้แต่ไม่ควรมองข้าม

340

งูสวัดเป็นโรคที่พบได้มากในผู้สูงอายุ หรือผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ อ่อนเพลียไม่มีแรง ภูมิคุ้มกันต่ำ รวมไปถึงผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยาวัคซีนบางชนิดได้รับยากดภูมิต้านทาน  ผู้ที่ติดเชื้อ HIV โดยสาเหตุเกิดมาจากเชื้อไวรัสชนิดเดียวกันกับโรคอีสุกอีใส โดยไวรัสชนิดนี้มีชื่อว่า varicella virus

งูสวัด

 

อาการของโรคนี้ช่วงแรกจะรู้สึกปวดแสบร้อนบริเวณผิวหนัง หลังจากนั้นจะเริ่มมีผื่นแดงขึ้น จนกลายเป็นตุ่มน้ำใส ๆ ลักษณะของตุ่มมีทั้งแบบเรียงยาวเป็นเส้น และเป็นกลุ่ม ผู้ป่วยบางรายอาจจะมีอาการไข้ร่วมด้วย โดยส่วนใหญ่อาการจะหายไปเองภายใน 2 สัปดาห์ แต่ก็จะยังรู้สึกปวดที่แผลอยู่บ้าง แต่ก็มีอยู่บ้างที่มีอาการหลบใน ที่จะรู้สึกเจ็บที่เส้นประสาทแต่ไม่มีผื่นขึ้นที่ผิวหนังจึงจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจเพิ่มเพื่อการวินิจฉัยแยกโรค

งูสวัดมีอาการแทรกซ้อนอะไรบ้าง

อาการแทรกซ้อนส่วนใหญ่ที่มักจะพบเจอก็อย่างเช่น เมื่อหายแล้วจะรู้สึกปวดตามเส้นประสาท ในบางคนอาจจะปวดนานหลายปี รวมไปถึงการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติม มีภาวะแทรกซ้อนทางหู ทางตา เป็นต้น หากเป็นผู้ป่วยมะเร็ง หรือผู้ที่ติดเชื้อ HIV โรคแทรกซ้อนรุนแรงแต่เกิดขึ้นได้น้อยก็คือ สมองอักเสบ และปอดอักเสบ

เมื่อเป็นงูสวัดต้องทำอย่างไร

หากเป็นผู้ที่ร่างกายปกติร่างกายแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันที่ดีก็รักษาตามอาการ ทานยาแก้ปวด เพราะเป็นโรคที่หายเองได้

หาเป็นผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือผู้สูงอายุหากเกิดอาการก็ควรได้รับยาต้านไวรัสภายใน 48-72 ชั่วโมง ก็จะทำให้อาการดีขึ้น และลดอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้

สำหรับการดูแลแผล ก็ห้ามแกะ ห้ามเกา หมั่นอาบน้ำฟอกสบู่เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ประแผลด้วยน้ำเกลือครั้งละประมาณ 10 นาที วันละ 3-4 ครั้ง จะทำให้แผลแห้งเร็วขึ้น หากมีอาการแทรกซ้อนจากแบคทีเรียอาจจะต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษา สามารถทานยาพาราเซตามอลเพื่อแก้ปวดได้ ไม่ควรทายาพื้นบ้าน หรือสมุนไพรเพราะอาจจะทำให้แผลหายช้า

วิธีการป้องกันการแพร่กระจาย

  • ไม่ควรสัมผัสแผล หรือตุ่มของผู้ป่วยที่เป็นโรคงูสวัด เพราะอาจจะทำให้เป็นโรคอีสุกอีใสได้
  • ผู้ที่ไม่เคยเป็นยโรคอีสุกอีใสมาก่อนไม่ควรใช้ข้าวของเครื่องใช้ร่วมกับผู้ป่วย เช่น ที่นอน หมอน ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว เครื่องแต่งกาย
  • หากเป็นผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือเป็นโรคงูสวัดแบบแพร่กระจาย ควรแยกผู้ป่วยออกไม่ใช้ใกล้ชิดกับเด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ รวมไปถึงผู้ที่ไม่เคยเป็นโรคนี้มาก่อน เพราะสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ทางการหายใจได้

อย่างไรก็ตามงูสวัดนั้นสามารถป้องกันได้โดยหมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย แต่หากเป็นผู้สูงอายุ หรือมีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงก็สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคได้เช่นกัน