ระบบกรองน้ำสำหรับใช้ และดื่ม ข้อควรรู้ก่อนจะเลือกใช้งาน

349

ระบบกรองน้ำถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นไม่น้อย ไม่ว่าจะเพื่อนำมาใช้ทั่วไปภายในบ้าน หรือเพื่อกรองเป็นน้ำดื่ม ถึงแม้ว่าระบบน้ำประปาจะมีความสะอาดอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่กว่าจะผ่านท่อต่าง ๆ มาถึง เราจะมั่นใจได้แค่ไหนว่ามีความสะอาดจริง ซึ่งการติดตั้งเครื่องกรองน้ำจะช่วยให้น้ำมีความสะอาดมากขึ้น โดยหลัก ๆ จะมีอยู่ 2 ประเภทดังนี้

ระบบกรองน้ำ

1. ระบบกรองน้ำแบบ Whole House Water Filter System

เป็นเครื่องกรองก่อนที่น้ำจะจ่ายน้ำเข้าสู่ในตัวบ้านเพื่อใช้ทั่วไป การติดตั้งเครื่องประเภทนี้นอกจากจะทำให้น้ำใช้มีความสะอาดมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการกรองก่อนที่จะเข้าสู่เครื่องกรองน้ำดื่มให้มีความสะอาดพร้อมบริโภคอีกด้วย โดยเฉพาะพื้นที่ที่ใช้น้ำบาดาล น้ำเค็ม น้ำกร่อย หรือน้ำกระด้าง น้ำต้องเข้าถังเก็บน้ำ หรือแท้งค์น้ำภายในบ้านก่อน หากจะติดตั้งควรจะติดเป็นอับดับรองลงมาจากมิเตอร์น้ำประปา

2. ระบบ Drinking Water Filter System

เป็นระบบกรองน้ำดื่ม ระบบการทำงานต่าง ๆ จะมีความคล้ายกับเครื่องกรองน้ำใช้ แต่จะให้คุณภาพน้ำที่ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นการกรองตะกอน สิ่งปนเปื้นในน้ำ เชื้อโรคต่าง ๆ การติดตั้งเครื่องกรองน้ำดื่มสามารถติดตั้งตามจุดต่าง ๆ ของตัวบ้านได้ตามความสะดวกเหมาะสมในการใช้งาน

เครื่องกรองน้ำใช้ และน้ำดื่ม แต่ละแบบ

เครื่องกรองน้ำใช้ MF – เป็นเครื่องกรองน้ำใช้ภายในบ้าน ที่ใช้แรงดันน้ำ ไม่ใช้ไฟฟ้า สามารถปรับคุณภาพน้ำให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น กร่อย น้ำเค็ม และน้ำกระด้าง ยังสามารถกรองกลิ่น และเชื้อโรคได้ แต่ยังไม่เหมาะสมที่จะนำไปดื่ม การใช้ตัวอุปกรณ์ทำจากไฟเบอร์หากติดตั้งในร่มมีอายุการใช้งานประมาณ 10 -15 ปี หากติดตั้งที่แจ้ง หรือนอกบ้านควรเลือกใช้แบบสเตนเลส จะมีอายุการใช้งาน 20-30 ปี

ระบบกรองน้ำดื่ม UF – สามารถกรองได้เชื้อจุลินทรีย์ ไวรัส แบคทีเรีย และโปรโตซัวได้ทุกชนิด รวมไปถึงกรองคลอรีน และโลหะหนักได้อีกด้วย การทำงานใช้แรงดันน้ำ ไม่ใช้ไฟฟ้า มีอายุการใช้งานประมาณ 10-15 ปี

เครื่องกรองน้ำดื่ม UV – เป็นระบบที่ฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ผ่านประจุแสงอัตราไวโอเลตเข้มข้น แต่โดยส่วนใหญ่ผู้ผลิตมักจะติดควบคู่ไปกับเครื่องกรองแบบอื่น ๆ เพราะการอาบประจุแสง UV สามารถฆ่าเชื้อโรคได้เท่านั้นไม่สามารถกรองสิ่งสกปรกอื่น ๆ ได้ เครื่องกรองแบบนี้มีอายุ ประมาณ 12-18 เดือน

เครื่องกรองน้ำดื่มแบบ RO – เป็นเรื่องกรองน้ำ 5 ขั้นตอน ทำให้กำจัดสิ่งสกปรกรวม แบคทีเรีย และไวรัสได้สะอาดที่สุด เพราะใช้แรงดันน้ำดันผ่านไส้กรองความละเอียดสูง แต่กรองที่มีความละเอียดสูงบางครั้งก็อาจจะทำให้ชั้นกรองเกิดอุดตันได้ มีอายุการใช้งานประมาณ 10-15 ปี

สรุประบบกรองน้ำหากเป็นการใช้งานทั่วไปภายในก็สามารถ ใช้แบบ Whole House Water Filter System ก็ถือว่าให้ความสะอาดเพียงพอแล้ว แต่หากต้องการใช้ดื่มก็ควรเพิ่มเครื่องกรองแบบ Drinking Water Filter System เข้าไปด้วย ก็จะทำให้น้ำมีความสะอาดและมีคุณภาพมากพอต่อการบริโภค