หลายคนมีความตั้งใจจะ เก็บเงินยังไงให้ได้ทุกเดือน แต่พอถึงสิ้นเดือนกลับพบว่าเงินในบัญชีเหลือเพียงน้อยนิด หรือไม่เหลือเลย สิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักคือ การเก็บเงินไม่ได้ขึ้นอยู่กับรายได้มากเท่ากับพฤติกรรมทางการเงิน หากไม่มีระบบคิดที่ดีพอ ต่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเท่าไรก็อาจเก็บไม่ได้เช่นเดิม

การวางแผนการเงินจึงไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่คือการเปลี่ยนแปลง ความคิด ความเข้าใจ และการลงมือทำอย่างมีวินัยและสม่ำเสมอ เพื่อสร้างนิสัยที่ยั่งยืน
เข้าใจรายรับ-รายจ่ายของตัวเองให้ชัดเจนก่อนเสมอ
ขั้นตอนแรกของการเก็บเงินอย่างมีประสิทธิภาพ คือการรู้จักตัวเองผ่านการ จดบันทึกรายรับ-รายจ่าย แม้จะดูพื้นฐาน แต่กลับเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม หากคุณไม่รู้ว่าเงินไปอยู่ที่ไหนในแต่ละเดือน ก็ยากที่จะควบคุมหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินได้อย่างเหมาะสม
ลองใช้แอปจดรายจ่าย หรือจดในสมุดเล่มเล็ก ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพียงหนึ่งเดือนก็จะเริ่มเห็นพฤติกรรมทางการเงินของตนเองชัดเจนขึ้น เช่น ใช้เงินไปกับกาแฟทุกวันมากเกินไป หรือมีค่าสมัครสมาชิกที่ไม่ได้ใช้งานจริง นี่คือ ข้อมูลพื้นฐาน ที่ช่วยให้คุณสามารถวางแผน เก็บเงินยังไงให้ได้ทุกเดือน ได้อย่างแม่นยำ
ตั้งเป้าหมายการเก็บเงินให้ชัดเจนและจับต้องได้
การเก็บเงินโดยไม่มีเป้าหมาย เปรียบเหมือนการเดินทางโดยไม่มีจุดหมาย คุณอาจเหนื่อยและถอดใจได้ง่าย ดังนั้นการตั้งเป้าหมายจึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้การออมเงินมีพลังมากขึ้น เป้าหมายควรเป็นสิ่งที่จับต้องได้ เช่น เก็บเงิน 20,000 บาทภายใน 6 เดือน หรือ เก็บเงินดาวน์รถใน 1 ปี ยิ่งเป้าหมายชัดเจน คุณจะยิ่งมีแรงผลักดัน และวางแผนได้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
แบ่งเงินเป็นสัดส่วนก่อนใช้ ไม่ใช่ใช้หมดแล้วค่อยเก็บ
หนึ่งในเทคนิคที่ได้ผลดีที่สุดคือการใช้หลัก “เก็บก่อนใช้” เช่น เมื่อได้เงินเดือนมา ให้แบ่งทันที 10–20% เข้าบัญชีออมแยกต่างหากที่ไม่สามารถถอนง่าย ๆ จากนั้นจึงวางแผนใช้ส่วนที่เหลือ การใช้บัญชีแยก หรือใช้อัตโนมัติช่วยตัดจากบัญชีหลักเป็นอีกวิธีที่ได้ผล เช่น สมัครหักอัตโนมัติไปฝากประจำ หรือเข้าบัญชีเงินออมที่ไม่มีบัตร ATM ซึ่งช่วยลด ความล่อตาล่อใจในการใช้เงินเกินจำเป็น
ลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยโดยไม่ทำให้ชีวิตอึดอัด
หัวใจของการออมอย่างยั่งยืน คือการมีชีวิตที่ไม่ต้องฝืนใจจนเกินไป เพราะหากการเก็บเงินทำให้รู้สึกเครียดหรือหมดความสุข ก็ยากจะทำให้ต่อเนื่อง ลองพิจารณา ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ที่สามารถลดลงได้อย่างไม่กระทบชีวิตประจำวัน เช่น การลดการกินข้าวนอกบ้าน การหยุดซื้อของสะสมที่ไม่จำเป็น หรือแม้แต่การลดการใช้บริการที่ไม่ได้ใช้จริง วิธีการเหล่านี้จะช่วยให้คุณประหยัดได้มากขึ้นโดยไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ และยังทำให้สามารถเก็บเงินยังไงให้ได้ทุกเดือน ได้อย่างผ่อนคลาย
เทคนิคเก็บเงินที่ทำได้ทันทีในชีวิตประจำวัน
- แบ่งเงินทันที 10% จากรายได้แต่ละเดือนเข้าบัญชีออม
- ใช้ บัญชีออมที่ไม่มีบัตร ATM เพื่อลดการถอนบ่อย
- ติดตามรายจ่าย ด้วยแอปมือถือทุกวัน
- ตั้งเป้าหมายระยะสั้น เพื่อสร้างแรงจูงใจ เช่น เก็บเงินค่าทริปในอีก 3 เดือน
- ลดการใช้เงินสดโดย ตั้งงบในแต่ละวัน และไม่ใช้เกินจากที่ตั้งไว้
ขยายโอกาสเพิ่มรายได้เสริมที่เหมาะกับคุณ
แม้เป้าหมายของบทความนี้คือการเก็บเงิน ไม่ใช่หาเงิน แต่ในหลายกรณี การเพิ่มรายได้เสริมเล็กน้อยสามารถช่วยให้การ เก็บเงินยังไงให้ได้ทุกเดือน เป็นจริงได้ง่ายขึ้น หากคุณสามารถทำงานเสริมที่ไม่กระทบงานหลัก เช่น ขายของออนไลน์ เขียนบทความสั้น แปลภาษา รับงานแอดมินเพจ หรือแม้แต่สอนพิเศษ ก็อาจมีรายได้พอที่จะเติมเข้าแผนออมเงินโดยไม่กระทบการใช้ชีวิตปกติ
นอกจากนี้ การ พัฒนาทักษะ ที่สามารถเปลี่ยนเป็นรายได้ เช่น การเรียนรู้การตลาดดิจิทัล การเขียนคอนเทนต์ หรือการใช้โปรแกรมพื้นฐานอย่าง Excel หรือ Canva ก็ล้วนเป็นการลงทุนในตัวเองที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว
ติดตามผลและปรับปรุงแผนทุกเดือน
การเก็บเงินเป็นเหมือนการดูแลสุขภาพ ต้องมีการติดตามผลและปรับเปลี่ยนตามความเป็นจริงในแต่ละช่วง ลองทำ สรุปการเงินของตัวเอง ทุกสิ้นเดือนว่าเก็บได้ตามเป้าหรือไม่ หากไม่ถึงเป้า ให้หาสาเหตุและปรับแผน เช่น ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หรือเพิ่มช่องทางรายได้เล็ก ๆ เสริม
การสะท้อนผลด้วยตัวเองยังช่วยให้เรามองเห็นความสำเร็จเล็ก ๆ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้เดินหน้าต่อ เช่น เดือนนี้สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ 1,000 บาท หรือมีรายได้เสริมจากงานอดิเรกที่เคยคิดว่าไม่มีทางทำเงินได้ วิธีคิดเช่นนี้เป็นรากฐานของคนที่สามารถออมเงินอย่างแท้จริง
บทสรุป: เก็บเงินทุกเดือนไม่ใช่เรื่องไกลตัว ถ้ารู้จักวางแผน
การเก็บเงินยังไงให้ได้ทุกเดือน ไม่ใช่เรื่องของรายได้เพียงอย่างเดียว แต่คือ การสร้างวินัย การจัดการความคิด และการใช้เทคนิคอย่างเข้าใจ หากคุณเริ่มต้นจากการรู้จักรายจ่าย ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน วางระบบเก็บเงินอัตโนมัติ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทีละน้อย ความมั่นคงทางการเงิน จะไม่ใช่แค่ความฝัน แต่คือผลลัพธ์ที่สัมผัสได้จริงทุกเดือน















